วิธีเลือกซื้อจักรยาน เพื่อขี่ออกกำลังกาย

bike

bike

เทรนของคนรักสุขภาพตอนนี้กำลังมาแรงมาก ปัจจุบันการออกกำลังกายที่นิยมมีหลายวิธี เช่น โยคะ โหนเชือก วิ่ง กระโดดเชือก และที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ จนชินตานั่นก็คือ การปั่นจักรยานออกกำลังกาย การปั่นจักรยานมีจุดประสงค์หลายอย่าง ทั้งปั่นเพื่อออกกำลังกาย ปั่นเพื่อแข่งขัน ปั่นเพื่อใช้แทนยานพาหนะอย่างรถจักรยานยนต์

การปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกาย สามารถใช้จักรยานแบบใดก็ได้ โดยมีวิธีในการเลือกซื้อ ดังนี้

  • งบประมาณในการซื้อ เป็นสิ่งแรกที่เราต้องให้ความสำคัญ เพราะถ้าหากเรารู้งบประมาณของเราอย่างแน่นอนจะทำให้เราสามารถตัดสินใจ ในการเลือกซื้อจักรยานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้จักรยานมีหลายประเภท ราคาก็ย่อมต่างกันตั้งแต่พันต้นๆ ไปจนถึงหลักแสนเลยก็มี
  • ทราบประเภทของจักรยาน การศึกษาประเภทของจักรยานแต่ละชนิด จะทำให้เรารู้สเปคว่า เรามีความต้องการอย่างไร เพราะจักรยานแต่ละประเภทนั้นมีสเปค มีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่แตกต่างกัน ดังนี้
  1. Road Bike (จักรยานเสือหมอบ) จักรยานเสือหมอบจะเน้นในเรื่องของความเร็ว มักใช้ปั่นบนถนนเรียบๆ ยาวๆ โล่งๆ ข้อดีของจักรยานเสือหมอบคือน้ำหนักเบา แต่ข้อเสียคือไม่สามารถใช้บรรทุกของได้
  2. Mountain Bike (จักรยานเสือภูเขา) ลักษณะจะค่อนข้างหนัก ล้อใหญ่ มีโช๊คที่สามารถรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ถูกออกแบบมาเพื่อปั่นในเส้นทางที่ค่อนข้างขรุขระ วิบาก ทำให้จักรยานประเภทนี้ใช้แรงปั่นค่อนข้างมาก
  3. Hybrid Bike (จักรยานไฮบริด) จักรยานประเภทนี้เป็นประเภทที่นำคุณสมบัติของจักรยานเสือภูเขา และจักรยานเสือหมอบ มารวมกัน สมรรถภาพจะอยู่กลางๆ ระหว่างเสือหมอบและเสือภูเขา
  4. Cyclocross (ไซโคลครอส) เป็นจักรยานอเนกประสงค์ที่สามารถที่จะปั่นทางขรุขระก็ได้ ทางเรียบก็ได้ ทรงจะคล้ายๆจักรยานเสือหมอบ แต่ล้อจะคล้ายๆ เสือภูเขา
  5. Touring Bike (จักรยานทัวร์ริ่ง) คุณสมบัติของจักรยานประเภทนี้เป็นไปตามชื่อ นั่นก็คือสามารถปั่นได้ไกล บรรทุกของสำหรับค้างแรมได้ สามารถซ่อมได้ง่ายหากชำรุดระหว่างทาง
  6. Folding Bike (จักรยานพับ) คุณสมบัติที่เห็นได้ชัดคือ สามารถพับได้ ใส่กระเป๋าพกพาสะดวก
  7. Fixed Gear Bike (จักรยานฟิกเกียร์) เรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุคของจักรยานฟิกเกียร์เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนจะเห็นเหล่าวัยรุ่น ปั่นจักรยานฟิกเกียร์กันให้เห็นไปทั่ว จุดเด่นของจักรยานประเภทนี้คือ ซ่อมง่าย ไม่มีกลไกใดเลย เราต้องปั่นไปตลอดและเมื่อไหร่ที่ต้องการเบรกก็คือต้องหยุดปั่น ดังนั้นการจะปั่นจักรยานประเภทนี้ต้องฝึกทักษะกันพอสมควร

เมื่อคุณเลือกได้แล้วว่าจะซื้อจักรยานประเภทไหน งบพอไหม ลำดับต่อไปคือ คุณต้องทดลองใช้มัน ลองปั่นดูว่าคุณรู้สึกชอบมากแค่ไหน สบายไหม เพราะจักรยานที่คล้ายๆ กัน จะทำจากวัสดุที่แตกต่างกันไป ดังนั้นความรู้สึกต่อรถแต่ละคันก็จะแตกต่างกันไป